GIN Story

Author : Wizardจอมสาระแน

File5

เค้าฝันว่าเค้าอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง มันเป็นสถานที่กว้างและรอบด้านมีแต่ต้นไม้สูงขึ้นค่อนข้างหนาทึบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขากำลังอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง แต่ยีนกลับไม่รู้ตัวและจำไม่ได้ว่าเค้าหลงเข้ามาอยู่ในป่านี้ได้ตั้งแต่เมื่อไรและอย่างไร แสงแดดสีทองส่องลอดลงมาที่พื้นเป็นหย่อม ๆ ทำให้ยีนมองเห็นทางแม้ที่นี่จะดูสวยแปลกตา แต่การที่เดินหลงป่าอยู่คนเดียวมันเป็นเรื่องน่ากังวลใจมากกว่าจะมีอารมณ์เดินดูทัศนียภาพรอบด้าน
ชายร่างสูงที่มีเรือนผมสีเงินเงางามสีเดียวกับเค้าไม่ผิดเพี้ยนปรากฏขึ้นที่ทางด้านหน้า เค้ากำลังเดินช้า ๆ เหมือนกำลังนำทาง ยีนเดินตรงไปชายผมเงินคนนั้น ยีนก้าวเดินเร็ว ๆ ตามชายผมเงินคนนั้น ไป

"เดี๋ยวสิ รอก่อน รอผมด้วย พ่อ!!!" ยีนร้องเรียกชายคนนั้น ชายคนนั้นเริ่มวิ่งหนีเค้า ยีนรีบออกแรงวิ่งตาม แต่แล้วยีนก็ต้องประหลาดใจอย่างมากที่เขาวิ่งหลุดออกจากป่าไม้นั้นออกมาได้ แต่แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงดังกัมปนาทที่กึกก้องจนแสบแก้วหู

ยีนร้องเรียกพ่อของเค้าจนนาทีสุดท้ายของพ่อ ...เค้าเห็นพ่อล้มลงขาดใจตายต่อหน้าต่อตา พ่อของเค้าเลือดท่วมตัว ตาค้างนิ่ง ตัวเย็นเฉียบ สิ้นใจตายตรงหน้ายีนที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก …

“ไม่นะ…ไม่!!! พ่อ!!!! ยีนตะโกนอย่างสุดเสียง และ พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง ในบ้านพอลเล็ตต์

ยีนสะดุ้งตื่นทันที ยีนปาดเหงื่อที่ชุ่มใบหน้าเค้าออก "ฝันร้ายรึ?" ยีนพึมพำเบาๆ ความรู้สึกลึกๆเค้ายังต้องการพ่อ และในใจเค้าลึก ๆ นั้น หวังว่าความรู้สึกนี้จะหายไปด้วยหากเค้าไม่หวนกลับไปคิดถึงมันอีก แต่ถึงแม้เค้าจะพยายามลืมเพียงใดมันก็เหมือนจะยิ่งตอกย้ำให้เค้ากลับจำมันมากยิ่งขึ้น ……..

ยีนอาบน้ำเสร็จ แล้วหยิบเสื้อยืดสีดำมาใส่ เค้าใส่สีดำมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เสื้อผ้าแทบจะไม่มีสีอื่นเลย เค้าเดินไปที่หน้ากระจกแล้วหยิบขึ้นมาหวีผมให้เรียบร้อย ยีนจัดกระเป๋าหนังสือแล้วลงไปลงมารับประทานอาหารเช้าเหมือนอย่างเคยทุกวัน และเค้าก็พบว่าสมาชิกครอบครัวพอลเล็ตต์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เค้าจึงเดินไปนั่งที่ประจำของเค้า….

“อรุณสวัสดิ์ฮะ….มิสเตอร์..” ยีนพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกมิสเตอร์พอลเล็ตต์ตบจนหน้าหัน
“บอกให้เรียกพ่อไง เด็กเลว!!!! แกควรเคารพชั้นมากกว่านี้ อย่าลืมสิ แกมันก็แค่เด็กไม่มีที่ซุกหัวนอนปลายเท้า ชั้นเป็นพ่อแกนะ!”
มิสเตอร์พอลเล็ตต์เงื้อมือจะตบซ้ำแต่ยีนใช้มือรับไว้อย่างรวดเร็ว
“ขอโทษฮะ” ยีนพูดเสียงแผ่วเบา แล้วเดินไปกินข้าวเช้าเงียบๆโดยไม่สนใจใคร….

ยีนสวมรองเท้าบู๊ตสีดำมีเข็มขัดเงินรัดใหม่เอี่ยมขัดมันอย่างดี เค้าสำรวจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วจึงหยิบกระเป๋าเดินออกมาแล้วไปโรงเรียน…หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เค้าต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ต้นใหม่หมดเช่น ตัวเลข ตัวอักษร ภาษา วัฒนธรรม กับเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ยีนกำลังนึกถึงสิ่งที่เค้าได้ทำในอาทิตย์ที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างดูน่าเบื่อและสุดแสนจะธรรมดา เค้าต้องมานั่งขลุกกับหนังสือเรียนใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ ภาษาใหม่ๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เค้าชอบเลยแม้แต่น้อย เค้าไม่มีเพื่อน ถึงมีเพื่อนก็คงไม่สามารถล่วงรู้ถึงความเบื่อหนายที่อยู่ในใจเค้าได้ เค้าเป็นคนเงียบๆ เงียบขรึม ไร้อารมณ์ เพราะนิสัยแบบเนี่ยถึงทำให้เค้าไม่เคยมีเพื่อนสักกะคนเดียว ทำให้เพื่อนๆมักมองว่าเค้าเป็นพวกเก็บตัวชอบอ่านแต่หนังสือไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่มันก็เป็นเรื่องจริง ตอนนี้เค้าแทบนอนราบกับโต๊ะด้วยความเซ็งสุดชีวิต อากาศขณะนี้ช่างไม่แตกต่างกับที่ญี่ปุ่นเลย...แต่อย่างน้อยที่โน่นก็ยังเรียนรู้เรื่องกว่าที่นี้ล่ะน้า ยีนคิดในใจ แต่ถึงจะคิดอย่างงั้น ยีนก็พยายามตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน เพราะเรื่องบางอย่างก็หาอ่านในหนังสือไม่ได้ ...

เสียงอาจารย์พร่ำบ่นต่อไปเรื่อยๆโดยไม่สนว่านักเรียนหลายคนทำหน้าเบื่อหน่ายที่ต้องเข้าชั้นเรียนทั้งที่ใจจริงลอยไปอยู่ข้างนอกแล้ว ในที่สุดเสียงออดอันเป็นสัญญาณหมดเวลาเรียน ที่สำหรับเด็กๆทุกคนนั้นราวกับเสียงสวรรค์ชั้น7ก็ดังขึ้น เสียงเก็บข้าวของกลับบ้านวุ่นวายไปหมด พร้อมๆ กับเสียงคุยเฮฮาไม่ขาดปาก...แต่เค้ายังไม่อยากกลับบ้าน ที่บ้านไม่มีใครอยู่ ช่วงบ่ายจึงเป็นเวลาที่เค้าอยู่คนเดียวและต้องเผชิญกับการบ้าน ที่ลอกใครก็ไม่ได้ ยีนเริ่มเดินเครื่องปั่นการบ้านตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจนัก ..

นี่เค้ามาอยู่ที่นี่ได้เกือบเดือนแล้วสินะ ปัญหาใหญ่ของเค้าคือเค้าเข้ากับพ่อใหม่ไม่ได้นัก เค้าถูกพ่อเลี้ยงทารุณต่างๆ นานา แม่เองก็ไม่ได้ช่วยอะไรนัก ตรงกันข้ามแม่ไม่พยายามช่วยเค้าเลย ไม่มายุ่ง ไม่ใส่ใจ ทำราวกับเค้าไม่มีตัวตน …

มิสเตอร์พอลเล็ตต์ เป็นชายรูปร่างสูงโปร่ง ผมและนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ยีนไม่ได้ชอบชายคนนี้เลย ตรงกันข้ามยีนกลับเกลียดผู้ชายคนนี้ที่สุด เพราะ..ผู้ชายคนนี้แย่งแม่ไปจากเค้า ถ้าหากไม่มีผู้ชายคนนี้ บางที…พ่อกับแม่อาจยังอยู่ด้วยกัน ถ้าหากไม่มีผู้ชายคนนี้ แม่ก็อาจจะรักเค้ามากกว่าเดิมก็ได้ ใครๆก็ไม่รักเค้า แม่ก็ไม่สนใจเค้าเลย

ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้…...ถ้าเพียงแต่ผู้ชายคนนี้ไม่มีตัวตน…..

ความคิดสุดท้ายจบลงพร้อมกับแววตาของเด็กชายที่เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน….

………………………………

อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!” เสียงร้องโหยหวนพร้อมเสียงปืนดังลั่นจากแถวบ้านเล็กๆแถบชานเมือง
“ แหกปากทำไม? เดี๋ยวตำรวจก็มากันพอดี ”เสียงเด็กชายพูดคุยกับบุรุษที่อยู่ตรงหน้า มือของเด็กชายกำกระบอกปืนไว้แน่น
สีหน้ามั่นใจในสิ่งที่กำลังทำสุดขีด ผิดกับท่าทางตะกี้ที่ถือปืน ทำท่าลังเล นิ้วตรงไกสั่นระริก แววตายังลังเลอยู่ สีหน้าหวาดระแวง กลัวในสิ่งที่กำลังทำอยู่…ตอนนี้สายตาของยีนแม้จะดูเศร้าสร้อย แต่มันก็แฝงไปด้วยความสุขอย่างเหลือล้นกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

”แต่อย่างว่าตำรวจจะจับผู้ร้ายได้ไง ถ้ามัวแต่นอนอยู่ตรงเนี่ย”ยีนรำพึงออกมาด้วยสีหน้าไร้เมตตา

ท่ามกลางความเงียบ ยีนใช้สายตาที่ดูเหมือนจะทิ่มแทงร่างกายเข้าไปได้ จับจ้องมาที่ดวงตาของบุรุษที่กำลังจะสิ้นลมหายใจ
ชายหนุ่มพยายามที่จะไม่สบตากับดวงตาเย็นชาสีเงินคู่นั้น เค้าเบนหน้าหนีโดยให้เป็นธรรมชาติที่สุดที่เค้าจะทำได้ พลางคิดในใจว่า“เด็กนี่ ปีศาจมาเกิดชัดๆ”แต่ยังไม่ทันคิดอะไรต่อ ก็ถูกเสียงปืนแผดสนั่นทะลุทั่วร่างอย่างต่อเนื่อง จนสิ้นใจในทันที

“…ตายซะแล้วเหรอเนี่ย…เฮ้อ…สงสัยจะทำเกินไปหน่อย ที่จริงน่าจะยิงให้โดนหัวใจตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องตะโกนหนวกหูยังงี้
….แต่เอาเฮอะ…ถือซะว่าเป็นคำพูดครั้งสุดท้ายที่จะได้ยินก็แล้วกัน”

เด็กน้อยนักฆ่ารำพึงกับตัวเอง พร้อมกับทอดสายตามองมาที่ร่างไร้วิญญาณของมิสเตอร์พอลเล็ตต์ซึ่งเต็มไปด้วยเลือด ดวงตาของเค้าช่างมืดมิด และไร้ความรู้สึกอะไรเช่นนี้…แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาชื่นชมกับเหยื่อ ตอนนี้ต้องทำลายหลักฐานซะก่อน แต่ว่ามันอาจจะเป็นการดีกว่าถ้าจะทำให้ตัวเค้าเป็นผู้เสียหายไปด้วย เค้าจัดการใช้ปืนกระบอกเดิมที่ยิงบุรุษที่อยู่เบื้องหน้าจนสิ้น จ่อเข้ากับแขนของตนเองแล้วแผ่ดเสียงกระสุนนัดสุดท้ายดังลั่นเข้าที่แขนขวาอย่างจัง แล้วภาพรอบข้างก็ค่อยๆดับวูบไปพร้อมกับสติสัมปชัญญะของเค้า………..

………………………………

ยีนค่อยๆลืมตาที่หนักอึ้ง ภาพทั้งหมดพร่าเลือน ยีนลืมตาตื่นขึ้นอย่างยากลำบาก เพราะความเจ็บปวดของบาดแผล เค้ากวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วเค้าก็พบว่าตัวเค้านอนอยู่ในห้องแห่งหนึ่ง เค้านึกแปลกใจว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แล้วสายตาของเค้าก็สะดุดอยู่ที่บุคคลที่นั่งอ่านหนังสือ ณ ข้างเตียงที่เค้านอนอยู่ คนๆนั้นลดหนังสือลงแล้วหันมาทักเขาว่า

“เป็นไงบ้างหลับสบายดีมั้ย?เธอไข้ขึ้นสูงมากเลยนะ” ชายคนนั้นเอาผ้าจุ่มน้ำบิดหมาดๆแล้วประคบบนหน้าผากยีนอย่างเบามือ
“ทำอะไรน่ะ?”ยีนถามชายคนนี้
“ไข้จะได้ลดลงหน่อยไง”(ทำแบบนี้แล้วไข้ลดจริงเรอะ)
ยีนถามชายหนุ่มคนนี้ว่า “คุณเป็นใคร?

ก่อนที่ชายหนุ่มจะตอบคำถาม" แอ้ดดดดดด " เสียงเบาๆของประตูห้องที่ค่อยๆเปิดออก พร้อมกับการปรากฏของเงาร่างของเด็กหนุ่มอีกคนสวมแว่นผมแดงหน้าตายียวนกวนประสาทมิใช่น้อย
ชายหนุ่มบอกยีนด้วยความเป็นมิตรว่า " ชั้นคือตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนชื่อ ครอฟฟอร์ต ส่วนตำรวจอีกคนที่พึงเข้ามาชื่อแพททริก ยินดีที่ได้รู้จักนะยีน"

" อืม.....ดีฮะ…”เค้าตอบด้วยใบหน้าที่เงียบเฉย
" แล้วนี่คิดว่าเราน่ะ อยากรู้จักกับนายมากนักหรือไง .. เด็กอารายไม่มีมรรยาทเอาซะเล๊ย~~~" ชายหนุ่มสวมแว่นผมแดงพูดพร้อมทั้งอวดภูมิอย่างเหนือชั้น

" เอ่อ... ใจเย็นๆก่อน แพททริก เค้าเป็นผู้เสียหายนะ(แล้วก็เป็นเด็กด้วย) เค้าคงช็อคจากเหตุการณ์น่ะ เหตุการณ์อย่างงั้นน่ะ เป็นใครก็…เหมือนกันแหละเห็นพ่อโดนยิงตายไปต่อหน้าต่อตาอย่างงี้"
“ อื้มม ….มันก็จริงอยู่แต่ว่า…เรามีหน้าที่สอบปากคำเด็กคนนี้!!!ไม่ใช่มีหน้าที่มาปลอบเด็กคนนี้นะเฟ้ย ” นายตำรวจหนุ่มอีกคนโต้กลับทันควัน ”แล้วอีกอย่าง ….ถ้าเห็นแก่พ่อของเด็กคนนี้ นายก็น่าจะรีบสอบปากคำเด็กคนนี้โดยเร็วที่สุด!!! ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีลอยนวลนะเฟ้ย!!!
ตำรวจหนุ่มกล่าวด้วยความโมโห
“อืมมมมม แล้วนายจะเริ่มยังไงอ่ะแพททริก??
ครอฟฟอร์ต ถามขึ้น
“ไม่เห็นยาก!!! เจ้าหนูรู้รึเห็นอะไรก็พูดออกมาให้หมด!!! ไม่อย่างงั้น ชั้นจับแกเข้าตะรางแน่!!!

…มะ… ไม่รู้… น่ากลัว…(โกหกหน้าด้านๆเลยนะยีนเอ๋ย)”คนที่ได้ยินสิ่งที่ยีนพูดมีเพียงนายตำรวจครอฟฟอร์ตคนเดียวเท่านั้น

ไม่เข้าใจเจ้าแพททริกเลยแฮะ วิธีสอบปากคำมีเป็นร้อย ดันเล่นขู่ซะนี่ แล้วเด็กมันจะยอมบอกเหรอ ครอฟฟอร์ต คิดในใจ <ได้รับความร่วมมือ...อย่างสุภาพและเต็มใจ(?)...จากเด็กน้อยน่ารักน่าชัง(?) เพราะเรื่องที่บอกนั้นเป็นเรื่องโกหกที่ยีนคิดขึ้นสดๆตรงนั้นเลย>

ยามดึกสงัด ท่ามกลางความเงียบ ยีนนอนพลิกตัวไปมา เค้าไม่สามารถจะข่มตาให้หลับลงได้ แม้ว่ายีนจะพยามบังคับตัวเอง แต่เรื่องที่เค้าทำลงไปยังคงวนเวียนอยู่ในโสตประสาท… เค้าก็เผอิญเหลือบไปเห็น หนังสือพิมพ์วางอยู่ข้างๆเค้า จึงหยิบขึ้นมาดู พาดหัวข่าวดูใหญ่กว่าทุกๆครั้งที่เค้าเคยเห็น

"ความคืบหน้าของคดีฆาตกรรมนายตำรวจพอลเล็ตต์" เค้าพลิกดูข้อความด้านใน "ผู้ร้ายฆาตกรรมยังล่องหน"

"เมี่อวันที่ 2 สิงหาคม เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ขึ้นที่บ้านของนายตำรวจพอลเล็ตต์ มีผู้ร้ายไม่ทราบจำนวนได้บุกเข้าไปในบ้านของนายตำรวจพอลเล็ตต์ อย่างอุกอาจ และได้ฆาตกรรมคนในบ้านซึ่งก็คือ นายตำรวจ คาร์ล พอลเล็ตต์ เจ้าของบ้านเสียชีวิตต่อหน้าลูกชายของเค้า และลูกชายของเค้าโดนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส จากปากคำของนางเคทเทอร์ พอลเล็ตต์ ภรรยาของผู้ตายนั้นรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เธอบอกอะไรไม่ได้มากนัก แต่เมื่อเราไปถึงก็พบว่า ไม่มีร่องรอยใดๆทั้งสิ้นราวกับล่องหน……”

ยังไม่ทันที่ยีนจะอ่านจบ ก็เกิดเสียงแอ้ดดดดดด มาจากประตูห้องที่ค่อยๆเปิดออก ยีนหันควับไปมองทันที ชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเค้า เดินเข้ามาหาเค้าใกล้ๆแล้วบอกกับเค้าว่า

“คุยกับชั้นแป็ปนึงได้มั้ย…”เค้าพูด
ยีนถามชายหนุ่มคนนี้ว่า “คุณเข้ามาได้ไง? !!!
ยีนถามด้วยเสียงกระซิบเพราะว่าหน้าห้องจะมีตำรวจคอยเฝ้าอยู่
“วางยาพวกตำรวจ ป่านนี้หลับเป็นตายไปแล้ว” ชายหนุ่มพูดอย่างร่าเริงและพูดต่อไปว่า "ก็เลยเข้ามาหาเธอได้ง่ายหน่อย……อืม~~~เรื่องที่เธอทำมันค่อนข้างที่จะ….”
“เข้าเรื่องเลยดีกว่า คุณเป็นใครกันแน่?
ยีนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“โอเคๆๆชั้น” รีกัล ” เป็นคนในองค์กรเหมือนเธอ(และเป็นคนทำลายหลักฐานเรื่องที่เธอทำ) บอกตามตรงเรื่องของเธอทำเอาชั้นตกใจนิดหน่อยเหมือนกัน เค้าเป็นพ่อบุญธรรมเธอใช่หรือเปล่าล่ะ สอนลูกมาดีนี่ ” รีกัลพูดประชด รู้สึกเคืองนิดหน่อย

หึหึ พ่อผมเหรอ หึหึหึ เข้าใจอะไรผิดไปอย่างมั้ง มันไม่ใช่พ่อผม แล้วผมก็ไม่จำเป็นต้องมีพ่อถึง2คนหรอก!”
แล้วตอนนั้น เธอรู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ?
อืม …ตอนแรก ก็กลัวแหละ…….. แล้วแม่ล่ะเป็นไงบ้าง? ยีนหันมาถามบ้าง เขามองหน้าคู่สนทนาที่แสดงอาการตกใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถามอะไรไปมากกว่านี้ เพราะตอนนี้เขาเองก็กำลังกลุ้มใจกับเรื่องนี้เหมือนกัน มันจึงทำให้เค้าปิดปากเงียบ และเก็บความสงสัยนั้นไว้ ซักพักความเงียบก็ถูกทำลายลงด้วยคำถามที่ค้างคาใจเค้ามาตั้งแต่ต้น

“สิ่งที่เธอทำลงไปแม่เธอเสียใจมาก แม่เธอถึงกับช็อกเมื่อทราบเรื่องทั้งหมด"
"อะ...อะไรนะ!!!แล้วแม่รู้เรื่องที่ผม….พ่อเลี้ยงตัวเองหรือเปล่า"
“เปล่า ไม่รู้ ทางเราไม่ได้บอกอะไรเลย….ที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องบอก เพราะแม่เธอแทบไม่รู้สึกอะไรเลย”
“หมายความว่าไง….. จะเล่าให้ผมฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่?” ยีนถาม แต่รีกัลไม่ตอบคำถามเค้าในทันที …
“อ้าว คราวนี้ไม่ฉลาดแฮะ…. พอแม่เธอรู้เรื่องก็เป็นลมล้มพับไม่ได้สติ ถึงหมอบอกว่าไม่เป็นไร แต่….จิตใจของแม่เธอบอบช้ำยากที่จะเยี่ยวยา ทำให้ตอนนี้แม่เธอแทบไม่มีความรู้สึกใดๆ…เฮ้ ! … เธอเป็นอะไรรึเปล่ายีน?” รีกัลพูดอย่างตกใจ
“อ่ะ…….อืม ไม่เป็นไรฮะ” ยีนก้มต่ำหลบสายตาของรีกัล "นี่รีกัลถ้าผมบอกความจริงกับแม่…..แม่จะเกลียดผมมั้ย?" ยีนถามรีกัลด้วยเสียงสั่นๆ ยีนพูดในขณะที่รีกัลได้แต่ลูบหัวปลอบอย่างอับจนถ้อยคำ
“เธอน่ะ เก็บกดเกินไปรู้รึเปล่า ไม่ร้องไห้ออกมาซะบ้าง ร่างกายมันรับไม่ไหวนะ”รีกัลพูด ยีนยังจ้องเค้าไม่วางตา
“หน้าชั้นมีอะไรติดเหรอ” รีกัลถาม
“เปล่า…คือไม่ค่อยมีใครมาดูแลผมแบบนี้น่ะ ขนาดผมกับแม่คุยกันยังแทบไม่เคย”ยีนพูดน้ำเสียงราบเรียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น รีกัลมองดูแล้วนึกสงสาร เด็กคนนี้พยายามซ่อนความเปราะบางของตัวเองไว้ แต่มันไม่ได้เป็นการกระทำที่ดีเลยแม้แต่นิดเดียว

“แม้แต่คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ย่อมมีวันอ่อนแอนะ” รีกัลพูดแทงใจ
“แล้ว….แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ คุณกับผมไม่เหมือนกันนะ ถึงเราจะอยู่…ที่เดียวกันก็เถอะ” ยีนพูดเสียงสั่น “ขอโทษนะ ผม…พูดแรงไปหน่อย” ยีนพูดกับความว่างเปล่า
ไม่เป็นไร” รีกัลยิ้มอย่างอ่อนโยน "เออ…ยีน…ขอถามอะไรหน่อย…ทำไมเธอถึงฆ่าเค้าล่ะ"
"เพราะผมอยากฆ่าน่ะสิ" ยีนตอบ

แล้วอยู่ๆรีกัลก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น " แล้วรู้ไหมว่า ทำไมชั้นถึงต้องมาคุยกับเธอนั่นก็เพราะว่า…" น้ำเสียงประโยคสุดท้ายของเค้าเปลี่ยนไป เค้าหลับตาลง พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เรื่องที่เธอทำมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และตอนนี้เธอก็ไม่มีผู้ปกครอง ตามกฎหมายของฝรั่งเศส เด็กคนนั้นต้องไปอยู่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งเธอคงไม่ไปแน่ แน่นอน…ทางองค์กรรับอุปการะเธออยู่แล้ว แต่ตอนนี้มีเรื่องเธอคงอยู่ในฝรั่งเศสไม่ได้ ดังนั้นชั้นจึงมาที่นี้เพื่อพาเธอไปรัสเซีย ไปอยู่ที่นั้น เรียนที่นั้น…ฝึกที่นั้น ส่วนเรื่องแม่เธอ…..เสียใจด้วยนะ…ทางเราคงช่วยอะไรไม่ได้ ทางที่ดีควรให้แม่เธอพักผ่อน…พักไปตลอด ดีกว่าต้องให้แม่เธอทนกับเรื่องที่ทำให้ทุกข์ทรมานทุกครั้งที่นึกถึง… “ รีกัลกล่าวเพียงเท่านี้ แล้วเดินออกไปจากห้อง จังหวะเดียวกับที่ตำรวจหน้าห้องฟื้นขึ้นมาพอดี…

………………………………….

<< File 4

File 6 >>

One-shot / เรื่องสั้น Series / เรื่องยาว Poem / กลอน Dark Zone

Home  /  Update  /  Just so Story...  /  Novel Game  /  Doujinshi  /  Crazy art  /
โรงน้ำชา CJR  /  Have a look!!!  Crazy things  /  Link